ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคม ผมได้เขียนนิดหน่อย (จริง ๆ ก็เยอะเลยล่ะ) เกี่ยวกับวิธีการทำงานของ Riot และสิ่งที่รออยู่ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ในบทความนั้น ผมได้พูดอธิบายว่าทำไมการเลือกกลยุทธ์ดำเนินงานของเราถึงมีความคล้ายคลึงกับการเลือกที่จะเล่นเกมต่อหรือไม่หลังจากที่คุณเพิ่งชนะเกมมา 

ผมได้รับความคิดเห็นเข้ามามากมายว่าพวกคุณชื่นชอบการได้รับรู้ด้านความโปร่งใสและเรื่องราวเบื้องหลังเหล่านี้ ดังนั้นผมจึงอยากจะทำอะไรที่คล้ายกัน ในตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจว่าจะเขียนเรื่องอะไรต่อไป แต่หลังจากหลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังจาก Riot ต้องประชุมออนไลน์มาเป็นเวลามากกว่า 2 ปี พวกเราก็ได้กลับมาเจอหน้ากันเป็น ๆ อีกครั้งในการประชุมรายสองสัปดาห์ที่เราเรียกกันว่า "รอบกองเพลิง (Campfire)"

การกลับมาพบกันอีกครั้งได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผมในเรื่องต่อไปนี้:

  • ทำไมเราถึงกลับไปใช้ระบบการทำงานแบบไฮบริด;
  • ออฟฟิศใหม่ที่เราจะเปิดเพื่อสนับสนุนการทำงานรูปแบบนั้น;
  • การพาทั้งบริษัทไปเที่ยวบาร์เซโลนาเพื่อสร้างความเคยชินแก่การเจอหน้ากันเป็น ๆ อีกครั้งหลังจากสองปีที่อยู่หลังหน้าจอ;
  • ต้อนรับ Marc Merrill กลับมาอีกครั้งในฐานะประธานฝ่ายเกม (PoG); และ
  • ผลลัพธ์ของโปรแกรม Queue Dodge ที่เราประกาศไปในเดือนมกราคม

อีกไม่กี่วัน… หรือไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้… ผมจะขอลาไปดูแลบุตรสักพัก ดังนั้นนี่จะเป็นบทความสุดท้ายของผมไปสักระยะ เมื่อผมกลับมา ผมอยากที่จะเขียนเกี่ยวกับความสำคัญของการลาคลอด การสร้างความสมดุลในการทำงานและชีวิต และเหตุผลที่ทำไมชาวอเมริกันถึงบ้าเกินไปที่พยายามจะลาหยุดกันให้น้อยที่สุด (พูดเล่นครึ่งนึง… พูดจริงครึ่งนึงนะ)

ผมอยากบอกไว้ตรงนี้ก่อนเลยว่าถึงแม้พวกเราที่ Riot จะเลือกใช้โมเดลการทำงานแบบไฮบริด (สามวันที่ออฟฟิศ และสองวันที่ไหนก็ได้) นี่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันควรเป็นต้นแบบที่ต้องทำตาม หรือการเป็นข้อโต้แย้งให้ทุก ๆ คนทำตามเรา การทำงานแบบออนไลน์เต็มรูปแบบก็ถือเป็นรูปแบบที่ใช้ได้จริงสำหรับหลาย ๆ บริษัทเช่นเดียวกัน มาถึงจุดนี้ ผมเชื่อว่าเราคงไม่ต้องโต้เถียงกันแล้วว่าโมเดลใดนั้นเหมาะสมที่สุด แต่เป็นโมเดลใดที่เหมาะสมกับบริษัทนั้น ๆ มากที่สุดต่างหาก 

มีบริษัทมากมายที่ทำงานออนไลน์เต็มรูปแบบ บริษัทที่ใช้รูปแบบไฮบริดแบบเรา และบริษัทที่กลับไปเข้าออฟฟิศแบบเต็มห้าวันต่อสัปดาห์ ดังนั้นถ้าจะให้เปรียบ การเลือกว่าเราควรจะใช้รูปแบบออนไลน์ ไฮบริด หรือเข้าออฟฟิศนั้นก็เหมือนกับการเลือกเลน บริษัทที่ดีที่สุดไม่ใช่บริษัทที่บังคับให้ทุก ๆ คนเดินตามรอยพวกเขา แต่เป็นบริษัทที่จะเลือกเลนและพยายามทำตัวเองให้ดีที่สุดในเลนนั้น ด้านล่างนี้ผมจะพูดถึงเหตุผลที่เราเลือกเลนนี้ และทำไมมันถึงเป็นเลนที่ถูกต้องสำหรับเรา

 
choosing-our-lane
การนำบริษัทที่ไม่ใช่ลงไปวางในเลนที่ไม่ใช่นั้นคือวิธีที่ดีในการที่จะแพ้เกมตั้งแต่หน้าเลือกตัว

 

ขอหมายเหตุไว้ว่าทุกข้อด้านล่างนั้นเขียนด้วยการคาดการณ์แล้วว่าเรามาถึงจุดที่สามารถควบคุมดูแลเรื่อง COVID ได้ COVID ยังคงเป็นสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาซึ่งเราจำเป็นต้องปรับตัวอยู่เสมอ และเราก็ไม่มีทางเชี่ยวชาญเกี่ยวกับมันได้ เรายังต้องพึ่งคำแนะนำจากเครือข่ายเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ดังนั้นผมจะไม่พูดเน้นถึงการกลับไปทำงานได้อย่างปลอดภัย แต่จะเน้นไปที่ว่าทำไมมันถึงคุ้มค่าที่จะกลับไปสำหรับ Riot ในช่วงเวลาและสถานที่ที่ทำได้ปลอดภัยที่สุด 

การเล่นเกมนั้นสนุกที่เมื่อเล่นด้วยกันและการสร้างมันก็เช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นบนโซฟา ใน PC คาเฟ่ หรือต่อหน้าเสียงเชียร์ของแฟน ๆ นับพัน การเล่นเกมด้วยกันตัวเป็น ๆ นั้นสามารถสร้างประสบการณ์ที่การเล่นออนไลน์ไม่สามารถเทียบเคียงได้ 

และเช่นเดียวกัน ในเหตุผลคล้ายกัน เราเชื่อว่าสำหรับเราแล้วการสร้างเกมนั้นจะดีที่สุดถ้าได้มาทำร่วมกันตัวเป็น ๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงตัดสินใจเลือกใช้โมเดลการทำงานแบบไฮบริด 1-3-1 โดยมีวันจันทร์และวันศุกร์เป็นวันยืดหยุ่น เราได้เลือกวันที่พนักงานของเราจะเข้าออฟฟิศไว้ให้เรียบร้อย เพื่อให้ง่ายและสะดวกมากที่สุดในการจัดประชุมหรือการทำงานระหว่างทีมโดยที่ไม่ต้องมาคอยเดาว่าใครจะเข้าออฟฟิศบ้าง 

การได้ยินเสียง Ace ใน VALORANT ทำให้คุณเลือดสูบฉีดบ้างไหม? ตอนที่คุณอัปเลเวลใน WoW ได้สำเร็จ อะดรีนาลีนของคุณพลุ่งพล่านบ้างไหม? การทำประตูได้ใน FIFA ทำให้คุณรู้สึกเหมือนมือโปรหรือเปล่า?

การสร้างให้ช่วงเวลานี้เกิดขึ้นอย่างถูกต้องนั้นต้องใช้การรวมตัวกันหลายพันชั่วโมงจากทุกฝ่าย ตั้งแต่วิศวกร นักออกแบบเกม ศิลปินนักวาด วิศวกรเสียง ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ นักเขียนเรื่อง …และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่หากคุณทำได้ ท้องฟ้าเท่านั้นที่จะจำกัดคุณไว้

สิ่งต่าง ๆ เช่นการได้รับข้อเสนอแนะจากการวานให้คนอื่นมาช่วยดูที่จอ การที่สามารถถามย้ำกับคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัว และการอ่านภาษากายเวลาที่คน ๆ นั้นไม่ได้ตื่นเต้นกับแผนของคุณเท่าที่คิด ล้วนเป็นสิ่งที่มีค่าและมีประโยชน์อย่างมากเมื่อได้เจอหน้ากันเป็น ๆ การสร้างบรรยากาศในทีมให้หลายอย่างเป็นไปได้ก็ทำได้ง่ายกว่าเช่นกัน ทั้งการสร้างความเชื่อใจเพื่อให้เกิดพื้นที่ที่ทุกคนสามารถออกความเห็นได้ การจัดการความตึงเครียดและความไม่ไว้ใจ การระดมความคิดร่วมกัน และอื่น ๆ อีกมากมาย

เมื่อมองกลับไปที่ต้นกำเนิดของ Teamfight Tactics ผมไม่คิดเลยว่าพวกเราจะมีความกล้าพอที่จะก่อร่างแนวคิดนี้หากเราไม่ได้เดินไปทั่วออฟฟิศและได้เห็นทุก ๆ คนกำลังหวดเกม Dota Auto Chess กันอย่างเมามันส์ พลังงานแบบตัวเป็น ๆ นี้คือกุญแจสำคัญสำหรับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มันมอบความมั่นใจให้เราเลือกดึงคนที่เหมาะสมที่สุด การจัดสรรทรัพยากร การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และการลงมือภายในเวลา 6 เดือนจนออกมาเป็นเกมที่สองของเราในท้ายที่สุด ผมนึกภาพการดำเนินการแบบเดียวกันนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ไม่ได้เลย ใครจะไปรู้ว่าอาจจะมีเกมแบบ TFT ที่รอให้เราค้นพบแต่เราดันพลาดไปเพราะเราอยู่ห่างกันก็เป็นได้?

 

back-to-the-future
อดไม่ได้ที่จะไม่ใช้ Gif จากหนึ่งในหนังโปรดของผมน่ะ

 

มีการพูดคุยมากมายในประเด็นเรื่องการทำงานออนไลน์เทียบกับการทำงานในออฟฟิศ ซึ่งส่วนมากมักจะเกี่ยวกับหัวข้อเรื่อง ‘ผลิตภาพการทำงาน’ ซึ่งคุณสามารถมองมาที่ Riot และบอกได้เลยว่าเราคือหนึ่งในตัวอย่างของบริษัทที่ผลิตภาพการทำงานออนไลน์นั้นไม่ต่างอะไรจากการทำที่ออฟฟิศ ความหมายของผลิตภาพของเรานั้นก็คือเรายังสามารถปล่อยผลงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ แต่ Riot จะไม่มีวันปล่อยให้ตนเองถูกจดจำในฐานะบริษัทที่บังคับทุกช่วงวินาทีให้ทุกคนทำงาน เรามีความเชื่อมั่นเสมอว่า Rioter จะจัดการตารางชีวิตของพวกเขาได้ และเราก็มั่นใจในตนเองในการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทางอุตสาหกรรมที่พบได้บ่อยครั้งเช่น ความเคยชินจนละเลย 

เรามีผลิตภาพในการทำงานมากกว่าเดิมตอนอยู่บ้านหรือไม่? ขึ้นอยู่กับงานนั้น ๆ วันนั้น ๆ หรืองานมอบหมายนั้น ๆ... แต่เป้าหมายของเราไม่ใช่การเป็นบริษัทเกมที่ทำงานหนักที่สุดในโลก เป้าหมายของเราคือการเป็นบริษัทเกมที่มุ่งเน้นไปที่ผู้เล่นมากที่สุดในโลก ที่ Riot เรากำลังพยายามเฟ้นหาจุดสมดุลระหว่างประโยชน์จากการทำงานที่บ้านในงานที่ทำที่บ้านแล้วได้ผลดีกว่า กับการดำเนินงานที่ต้องใช้ความร่วมมือจนสำเร็จในฐานะองค์กรผลิตงานในระดับนี้ (มีพนักงานมากกว่า 3,000 คน)

ผมค่อนข้างมั่นใจว่าสักวันหนึ่งจะมีบริษัทที่สามารถค้นพบวิธีที่จะได้รับผลประโยชน์ของการทำงานแบบตัวเป็น ๆ ในสภาวะแวดล้อมแบบออนไลน์ได้ แค่ผมยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ อาจจะหนึ่งปี? อาจจะหนึ่งทศวรรษ? แต่เราจะไม่เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นไปที่เรื่องนั้น มันไม่ใช่ทางถนัดของเรา เราเลือกที่จะมุ่งเน้นพลังงานการสร้างงานของเราไปกับผู้เล่น ไม่ใช่การหาหนทางใหม่ ๆ ในการทำงานออนไลน์ เมื่อมีบริษัทที่ค้นพบเรื่องนั้น ในระดับที่สามารถผลิตงานสร้างสรรค์ได้อย่างสบายใจ ขอให้มั่นใจว่าเราจะให้ความสนใจและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงหากมันเข้ากับเราอย่างแน่นอน

ออฟฟิศของเราจะสนับสนุนวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างไร

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมเยือนออฟฟิศของ Riot หลากหลายออฟฟิศ ออฟฟิศแรกของ Riot มัน… แย่มาก แต่อย่างน้อยค่าเช่าก็ถูกใช่ไหมล่ะ? ผมโชคดีได้มีโอกาสเข้าไปช่วยในการเปิดออฟฟิศใหม่ ๆ ของเราหลายที่ เช่นในดับลิน โซล และปารีส และออฟฟิศเหล่านั้นก็เริ่มต้นได้ไม่สวยเท่าไหร่เช่นกัน แต่ออฟฟิศเหล่านี้ล้วนเต็มไปด้วยพลังงานและจังหวะหัวใจในแบบของตัวเอง รวมถึงความรู้สึกที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ความรู้สึกที่ว่าในมุมถัดไปนั้นอาจจะมีแนวคิดที่กำลังก่อร่างและสามารถเปลี่ยนทุกสิ่งไปได้ตลอดกาล

 

riot-games-mexico-city
Rioter ในเม็กซิโกซิตี้รวมตัวกันสำหรับการนำเสนอ

 

นอกจากนั้นมันยังมีความสนุกสนานที่พวกคุณอาจลืมไปเมื่อไม่ได้เข้าออฟฟิศมาเป็นเวลานาน ที่ Riot เราตั้งเป้าที่จะทำให้ออฟฟิศของเราเป็นเครื่องสะท้อนวัฒนธรรมของเราและเป็นเครื่องเตือนใจเราถึงเหล่าผู้เล่น คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับออฟฟิศของเราได้ที่นี่ ทุกที่นั้นพิเศษและเจ๋งสุด ๆ

 

bilgewater-brew
ด้านนอกร้านกาแฟ Bilgewater Brew ที่ศูนย์ใหญ่ลอสแองเจลิส

 

เมื่อเวลาผ่านไป เราก็ตอบรับพลังงานและวัฒนธรรมของ Riot โดยการสร้างที่ทำงานที่สะท้อนพลังงานนั้น ทั้งห้องเล่นเกม พื้นที่สำหรับรวมตัวพูดคุย หรือพื้นที่สำหรับผู้ที่ต้องการความสงบ ห้องที่เฉลิมฉลองแก่ตัวละครและโลกในเกมของเรา รวมถึงห้องที่ไว้สำหรับเล่นอย่างจริงจัง

 

riot-games-singapore
Rioter กำลังทำงานในสตูดิโอที่สิงคโปร์ของเรา เจ้า Tibbers ดูจะเบื่อ ๆ นะ

 

ตอนที่สตูดิโอของเราทำงานกันเต็มร้อย ภายในนั้นก็จะกระตือรือร้นกันสุด ๆ นัดเล่นเกมแบบสด ๆ การจัดปาร์ตี้ฉลอง การประชุมชมรม… ยังมีอะไรอีกมากมายให้ทำนอกเหนือจากการทำงาน

 

rio-games-bay-office
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทีมสร้าง Project L ที่ Riot Bay ถึงมีจอยเกมต่อสู้ขั้นเทพเตรียมไว้พร้อม

 

ในเดือนธันวาคม เราได้ประกาศว่าเราได้เข้าซื้อตึกสำนักงานแรกของของเราในเขตซีแอตเทิล พวกเขากำลังสร้างมันอยู่ในขณะนี้

 

riot-games-mercer-island
ภาพเรนเดอร์สตูดิโอเกมของเราที่เมอเซอร์ ไอส์แลนด์ เขตวอชิงตัน

 

ในช่วงที่ผ่านมาเรายังได้ทำการเปิดพื้นที่ใหม่สองพื้นที่ในแคมปัส LA ของเรา ซึ่งก็คือหนึ่งอาคารในธีม Legends of Runeterra และอีกหนึ่งอาคารในธีม VALORANT

 

riot-games-lax-val-building
อาคารใหม่ในลอสแองเจลิสท้าทายทุกข้อจำกัด

 

นอกจากนั้นเรายังมีความก้าวหน้าในการจัดตั้งสตูดิโอพัฒนาเกมในเอเชีย เมื่อปีก่อนเราได้ประกาศไว้ว่าเราจะเพิ่มความสามารถในการพัฒนาในเซี่ยงไฮ้ เราได้ติดต่อให้ Rioter ในฮ่องกงและสิงคโปร์ทำงานอย่างใกล้ชิดกับพาทเนอร์ภายนอกทั้งในเซี่ยงไฮ้และไทเปแล้ว

 

riot-games-shanghai
ภาพร่างสตูดิโอใหม่ของเราในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนก่อสร้าง

 

ทีมจัดจำหน่ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราก็กำลังขยับขยายเช่นเดียวกัน โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์กลางการเผยแพร่ในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย

ประเด็นหลักก็คือ หากตอนนี้ยังไม่มีออฟฟิศของ Riot อยู่ใกล้ ๆ คุณ ก็คาดหวังได้เลยว่าจะมีในเร็ว ๆ นี้

ยินดีต้อนรับสู่บาร์เซโลนา

เรารู้ดีว่าการพาทุกคนกลับมารวมกันแบบตัวเป็น ๆ นั้นเป็นงานยาก เราได้สร้างพื้นที่ปลอดภัยภายในบ้านที่ยากจะแหวกออกมา และสำหรับพวกเราหลายคน เราก็แทบลืมไปแล้วว่าการทำงานตัวเป็น ๆ ที่ Riot นั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะกลับมารวมตัวกันและเวิร์คที่สุด

ณ จุดสำคัญที่เราจะพาทั้งบริษัทมารวมตัวกันในที่เดียวเพื่อพูดคุยหารือทิศทางในอนาคต รวมถึงการวางกลยุทธ์ที่เราจะใช้ในภายภาคหน้า นอกจากนั้นก็จัดปาร์ตี้สุดเจ๋งอีกสักคืนสองคืน เรามีชื่อสุดสร้างสรรค์มาให้กับมันด้วย เราเรียกมันว่า Global Riot Conference (GRC)

 

riot-games-grc
Rioter มาถึง GRC เป็นวันแรก *ชนหมัดสักหน่อย*

 

สำหรับ GRC ประจำปี 2022 เรารู้ดีว่าเราต้องทำให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะอย่างไรแล้ว GRC ครั้งล่าสุดก็จัดขึ้นในปี 2016 และ Rioter ส่วนใหญ่ก็ยังไม่เคยได้เข้าร่วม (เพราะคนเราเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าจากตอนนั้น!) ไม่ใช่แค่เพราะบริษัทเราใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่เรารู้ดีว่าทุกคนก็ตื่นเต้นที่จะได้ออกจากบ้านและจับกลุ่มกลับสู่ชีวิตปกติอีกครั้ง และหวังว่าจะช่วยให้เกิดเป็นความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในแบบที่ผมกล่าวไว้ด้านบน

 

riot-games-anna-donlon-grc
การนำเสนอของ Anna Donlon ที่ GRC นั้นเป็นสุดยอดเป็นปรากฏการณ์

 

เราเลือกบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เป็นจุดมุ่งหมายของอีเวนต์ เพราะมันจะเป็นเครื่องเตือนใจแก่ Rioter ถึงกลุ่มผู้เล่นระดับโลกของเรา ทั้งช่วยให้พวกเขาเข้าถึงวัฒนธรรมเกมอันสดใส รวมถึงเพราะที่นี่มีสถานที่ที่เราสามารถจัดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ในรูปแบบที่ปลอดภัยจาก COVID ได้ (เพราะยังไงเราก็มีออฟฟิศอยู่ที่นี่ด้วย)

 

barcelona-cosplayers
ภาพนักคอสเพลย์ท้องถิ่นชาวสเปนที่งานปาร์ตี้เปิดตัวธีม VALORANT ณ พิพิธภัณฑ์ Poble Espanyol

 

ผมคิดไม่ถึงเลยว่าทีม GRC นั้นวางแผนไว้ใหญ่ขนาดนี้ ตอนที่เราไปถึงที่นั่นในช่วงต้นเดือนมีนาคม Rioter กว่าพันคนที่เดินทางมาจากทั่วโลกต่างได้เข้าร่วมประสบการณ์กว่า 4 วันแห่งกิจกรรมและการเฉลิมฉลองสุดตระการตา

 

grc-nexus
ภาพเวลาอาหารกลางวันที่ Nexus ของงาน GRC 2022

 

เราได้รับฟัง Rioter พูดคุยถึงทุก ๆ ภาคส่วนที่เราจะสร้างสรรค์แก่ผู้เล่น ทั้งการนำเสนอสุดแสนเล่นใหญ่และการนำเสนอแบบเล็ก ๆ เรียบร้อย

 

riot-grc-barcelona
Rioter กว่า 2,000 คนมาร่วมกับเราในบาร์เซโลนาเพื่อตื่นเต้นไปกับอนาคตของ Riot

 

แม้แต่ Zedd ก็ยังมาร่วมกับเราในงานปาร์ตี้วันสุดท้าย ผมรู้มาก่อนแล้วว่าเขาเล่น VALORANT เก่ง แต่กลายเป็นว่าเขาดันเป็นสุดยอด DJ ด้วยนี่สิ แม้ว่าผมจะได้รับรู้ข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ก่อนไปถึงอยู่แล้ว (น่าเสียดายที่การเป็น CEO ทำให้ไม่ค่อยได้เจอเรื่องเซอร์ไพรส์เท่าไหร่) แต่ผมก็ตะลึงจริง ๆ เมื่อได้เห็นทั้งหมดนั้นรวมเข้าด้วยกัน

 

zedd-grc
แขกพิเศษสำหรับปาร์ตี้ปิดท้ายของเราทำให้เวทีลุกเป็นไฟ

 

ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดกว่าการนำเสนอและปาร์ตี้เหล่านั้น ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างอีเวนต์เหล่านั้น Rioter ที่ไม่ได้เจอหน้ากันเป็นปี ๆ ได้กลับมาเจอกันและปฏิสัมพันธ์กันในชีวิตจริง ผมมั่นใจว่าผมเห็นน้ำตาแห่งความปิติใต้หน้ากากพวกนั้นในขณะที่ผมเดินผ่านไปยังโถงอีเวนต์ และผมก็เชื่อสนิทใจว่านี่คือสิ่งสำคัญที่เป็นเชื้อเพลิงให้กับส่วนที่น่าจดจำที่สุดในงาน GRC สำหรับตัวผมเอง นั่นก็คือ Ideadome สำหรับรายการ Shark Tank เวอร์ชัน Riot นี้ เราได้นำทีม Rioter ต่าง ๆ มารวมตัวกันและปล่อยให้พวกเขาบรรเลงจินตนาการอย่างเต็มที่ในระหว่างการระดมความคิดในช่วงสองวัน จากนั้นพวกเขาก็จะได้นำเสนอแนวคิดแก่ระดับผู้บริหารและต่อหน้าทั้งบริษัท เพื่อโอกาสในการเซ็นสัญญาสนับสนุนแนวคิดของพวกเขาในนาทีนั้นเลยจากผู้บริหารของเรา และใช่แล้ว เรากำลังเดินหน้าแนวคิดนี้ในฐานะส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของบริษัทของเราในอนาคตต่อไป!

 

grc-ideadome
การจับกลุ่ม ‘Ideadome’ ภายในงาน GRC 2022

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เราได้ทำการสอบถาม Rioter ทุกคนว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรกับบริษัท ความแตกต่างระหว่างคนที่เข้าร่วมงาน GRC คนที่รับชมผ่านทางออนไลน์ และคนที่ไม่ได้ร่วมคอนเทนต์เลยนั้นเด่นชัดมาก:

riot-grc-survey

เราค่อนข้างมั่นใจก่อนที่จะไปบาร์เซโลนาว่าเราตัดสินใจถูกต้องในการกลับมาใช้การทำงานแบบตัวเป็น ๆ และ GRC ก็ทำให้เรามั่นใจ 200 เปอร์เซ็นต์ว่าเราคิดถูก 

ยินดีต้อนรับ Marc กลับมาในฐานะประธานฝ่ายเกม

ย้อนกลับไปก่อนที่ผมจะมาทำงานกับ Riot ผมเคยทำงานอยู่กับฝ่ายจัดจำหน่าย League ในยุโรป ครั้งแรกที่ผมเห็นตัวเดโม่ของเกม ตอนนั้นมันไม่น่ามั่นใจเลย แต่ Riot ก็ดึงดูดผมได้จากความหลงใหลของตัวทีมและภาวะผู้นำของสองผู้ก่อตั้งอย่าง Brandon และ Marc

ในหลายปีที่ผ่านมา การมีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอของตัวผู้ก่อตั้ง—แม้ว่าจะขายหุ้นของบริษัทส่วนใหญ่ไปให้กับ Tencent แล้วก็ตาม—คือส่วนที่ทำให้ผมมั่นใจว่าเรากำลังไล่ตามจุดหมายที่ถูกต้องสำหรับภารกิจหลักของเรา แม้จะได้ขึ้นไปกุมบังเหียนเป็น CEO Brandon และ Marc ก็ยังอยู่ตรงนั้นคอยช่วยดูแลทิศทาง ทั้งให้ข้อเสนอแนะอันมีค่าแก่ตัวเลือกสำคัญ รวมถึงจัดตั้งโครงการที่ส่งผลกระทบวงกว้างด้วยตัวเอง ช่วงสิ้นปีที่แล้ว ผมได้เข้าไปคุยกับ Marc เกี่ยวกับการกลับไปทำงานประจำวันภายใต้โครงสร้างเสาปฏิบัติการใหม่ของเราในฐานะประธานฝ่ายเกม และในเดือนกุมภาพันธ์ เราก็ได้ประกาศตำแหน่งใหม่นี้แก่ผู้เล่นทั่วโลก

อย่างที่ทุกคนที่เคยทำงานในบริษัทที่ถูกนำโดยผู้ก่อตั้งรู้ดี นอกจากเป็นเสาหลักสร้างแรงบันดาลใจแล้ว ผู้ก่อตั้งยังทำหน้าที่พิเศษทั้งในการตัดสินใจในทางปฏิบัติของบริษัท และการเป็นผู้นำทางจิตใจและวัฒนธรรมขององค์กรเช่นเดียวกัน ผมรู้สึกของคุณอย่างยิ่งต่อความเป็นผู้นำของ Marc ในตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่ Riot แต่มันก็เจ๋งสุด ๆ ที่ได้มีเขาเป็นพาทเนอร์ในการขับเคลื่อนอนาคตของวงการเกมในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

Marc และ Brandon ก็มาร่วมกับเราที่ GRC เช่นเดียวกัน Brandon ขึ้นเปิดงานประชุมด้วยการเตือนใจ Rioter ถึงผู้เล่น รวมถึงความกล้าที่จะเสี่ยงในระยะยาวเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อผู้เล่น

 

grc-brandon-beck
Ryze ขึ้นเปิดตัว GRC โดยการพูดในหัวข้อ “เหตุผลของ Riot Games”

 

จากนั้น Marc ก็ขึ้นพูดปิดพร้อมมอบวิสัยทัศน์ให้กับเราเกี่ยวกับช่วงถัดไปของการไต่เขาแห่งเป้าหมายครั้งนี้ ในหัวข้อ “ได้เวลาเริ่มต้นซีซั่น”

 

grc-marc-tryndamere
Tryndamere แสดงความตั้งใจแรงกล้าไม่มีตายของเขาถึงอนาคตของ Riot ในงาน GRC

 

ผลลัพธ์ของ Queue dodge และหนทางข้างหน้า

เรารู้ดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะพึงพอใจกับการตัดสินใจโมเดล 1-3-1 ในครั้งนี้ และนั่นก็ไม่เป็นไร บางคนอาจจะชอบบรรยากาศการทำงานออนไลน์ ในขณะที่บางคนอาจจะชอบการทำงานในออฟฟิศแบบเต็มตัว สำหรับคนที่ชอบการทำงานแบบไฮบริด เราต้องการทำให้มั่นใจว่า Riot คือสถานที่แห่งนั้น

ในอัปเดตล่าสุดของผมในเดือนมกราคม ผมได้พูดเกี่ยวกับโปรแกรม Queue Dodge และท้ายที่สุด Rioter ราว 142 คนก็เลือกที่จะเข้าร่วม (จากกว่า 3,700 คน ดังนั้นก็ต่ำกว่า 4 เปอร์เซ็นต์) ซึ่งเป็นจำนวนพอ ๆ กับที่เห็นเป็นประจำหลังจากช่วงโบนัส จากพนักงานที่เข้าร่วมใน Queue Dodge ทั้งหมด มี 45 คนที่ให้เหตุผลว่าการทำงานแบบไฮบริดคือสาเหตุที่พวกเขาเลือกจะลาออก ในจำนวนนั้นมีเพียง 13 คนเท่านั้นที่ต้องการตัวเลือกให้ทำงานออนไลน์ได้เต็มรูปแบบ ในขณะที่อีก 28 คนที่เหลืออาจจะอยู่ต่อหากมีสถานที่ที่เหมาะสมให้พวกเขา เมื่อเราขยายไปสู่สถานที่ใหม่ ๆ เราก็หวังว่า Rioter เหล่านั้นจะกลับมาร่วมงานกับเรา

ความจริงที่ว่ามีตัวเลือกรอพวกเขาอยู่ข้างนอกนั่นหมายความว่าผู้คนสามารถเลือกทางที่ดีที่สุดให้กับตนเองได้ ซึ่งถือว่าเป็นก้าวที่ดีสำหรับอนาคตของวงการการทำงานโดยรวม ผมไม่รู้ ว่าการทำงานที่ Riot จะเป็นอย่างไรใน 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า แต่สิ่งที่ผมรู้ก็คือการทำงานแบบตัวเป็น ๆ นั้นสร้างพลังได้อย่างมหาศาล ผมรู้สึกได้ในงาน GRC และผมก็รู้ว่า Rioter คนอื่น ๆ รู้สึกเช่นเดียวกัน ตอนนี้เราก็เริ่มที่จะได้รับเสียงตอบรับแสนกระตือรือร้นจากการเปิดศูนย์ใหญ่ของเราอีกครั้งแล้ว และผมก็แทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นนวัตกรรมสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่เราจะนำมาสู่ผู้เล่นผ่านการกลับมารวมตัวจับมือแบบตัวเป็น ๆ อีกครั้งในครั้งนี้