ปีนี้ Worlds มาถึงละตินอเมริกาเป็นครั้งแรก ในขณะที่การดำเนินการได้ย้ายไปที่สหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกายินดีอ้าแขนต้อนรับ Worlds ในขณะที่ผู้เล่นทั่ว LATAM ออกมาสนับสนุน ในรอบ Play-In พบกับหน้ากาก Luchador แบบกำหนดเอง ปาร์ตี้รับชมโดยเน้นที่งานปาร์ตี้ที่ The House of Worlds และความหลงใหลจำนวนมหาศาลจากแฟนอีสปอร์ตละตินอเมริกาที่หยั่งรากลึกในทุก ๆ ทีมด้วยพลังงานที่น่าประทับใจ 

แต่ Worlds ในเม็กซิโกซิตีก็ยังขาดส่วนสำคัญไป ผู้เป็นที่รู้จักในหมู่เพื่อน ๆ ว่า Javi และในหมู่ผู้เล่นว่า Riot Maggical ผลกระทบของ Javier España ที่มีต่ออีสปอร์ตละตินอเมริกา และต่อ Riot นั้นมันมากเกินกว่าจะพูดออกมาเป็นคำได้หมด เพียงแค่อายุ 40 ปี เขาก็ต้องจากไปอย่างคาดไม่ถึงในเดือนพฤษภาคม ตอนที่ Javi จากไป ผู้เล่นในละตินอเมริกาเสียก็สูญเสียหน้าตาของ Riot ในภูมิภาคนี้ และ Riot ก็สูญเสียชายคนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าการเป็นพนักงาน Riot มีความหมายว่าอย่างไร 

Mariano Vives ผู้ซึ่งทำงานร่วมกับ Javi ในสำนักงานในเม็กซิโกซิตีของ Riot กล่าวว่า “Javi นั้นมีความหลงใหลอย่างมาก และเป็นคนที่หลงใหลในกีฬาอีสปอร์ตมากที่สุดในหมู่พวกเราเลย” “เขาอยู่ตรงกลางคอมมูนิตี้ของเรา เขาเป็นเสาหลักในภูมิภาคสำหรับผู้เล่น เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม เป็นเหมือนพ่อที่ดีมากคนหนึ่งเลย เขารวบรวมเอาความหลงใหลจากการทำงานในวิดีโอเกมทุกวันไว้ เขาเป็นคนพนักงาน Rito ที่ดีที่สุดเลย ดีใจที่ได้ร่วมงานกับเขา”

เมื่อทีมในเม็กซิโกซิตีพูดถึง Javi ก็มีเสียงหัวเราะและน้ำตาออกมาพอ ๆ กัน เขาเป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นผู้นำ และที่สำคัญที่สุดคือเพื่อน 

“เราเซ็นสัญญากับ Riot ในวันเดียวกันเมื่อ 7 ปีที่แล้ว” Juan Moreno หนึ่งในเพื่อนสนิทที่สุดของ Javi ที่ Riot กล่าว “เราทำ Denewb (กระบวนการเริ่มต้นงานเป็นเวลา 1 สัปดาห์ของ Riot) ร่วมกันในสัปดาห์เดียวกัน เมื่อคุณค้นหาพนักงาน Rioter ในพจนานุกรม Javier นี่แหละคือคนที่โผล่ออกมา เขาทำทุกอย่างเพื่อผู้เล่นและเพื่อคอมมูนิตี้ และการที่มี Worlds ในเม็กซิโกซิตี นี่แหละคือความฝันของเขา ดังนั้นแม้เขาจะไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อที่จะได้เห็นมัน เราได้ทำสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อเขา”

เขาเป็นพนักงาน Riot ที่น่าทึ่งที่สร้างผลกระทบในทุกแง่มุมของ Riot ในเวลาเดียวกัน เขาเป็นคนในครอบครัวที่ทำทุกอย่างเพื่อภรรยาและลูก ๆ ของเขา 

“Javi สุดยอดมากเลยในเวลาทำงาน แต่ลูก ๆ สามคนและภรรยาของเขา พวกเขาคือสิ่งสำคัญที่สุดของเขา” Santiago Duran ผู้จัดการของ Javi ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาของเขาที่ Riot กล่าว “เขาจะตื่นแต่เช้า ทำอาหารกลางวันให้ลูก ๆ ของเขา พาพวกเขาไปโรงเรียนและมาที่สำนักงาน เมื่อมาถึง เขาก็กลายเป็นเครื่องจักรเลย เขาทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากมายสำหรับสำนักงานของเรา และเขาจะไม่อยู่จนดึก เพราะมันไม่จำเป็นสำหรับเขา เขาจะทำให้แน่ใจว่าเขากลับไปพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวเพื่อทานอาหารเย็น แต่คุณแน่ใจได้เลยว่าเขาจะหาเวลาเล่น League หรือ VALORANT ในคืนนั้นเมื่อเด็ก ๆ เข้านอนกันไปแล้ว”

 
riot-games-javier-espana-latin-america-team

 

หน้าตาของ Riot สำหรับผู้เล่นในละตินอมเริกา

เมื่อผู้เล่นทั่วละตินอเมริกามีปัญหา พวกเขาจะเรียกหา Maggical ตั้งแต่ตั๋วขอความช่วยเหลือไปจนถึงปัญหาบัญชี ผู้เล่นทุกคนต้องทำคือแท็ก @RiotMaggical บน Twitter และเขาจะให้การช่วยเหลือ หรืออย่างน้อยก็ชี้นำให้พวกเขาไปในทิศทางที่ถูกต้อง ไม่กี่วันก่อนเขาจากไป ยังคงมี Maggical ที่คอยช่วยเหลือผู้เล่นเช่นทุกที

“เพราะเขาทำงานด้านอีสปอร์ตมาเป็นเวลานาน และเขาเปิดเผยตัวต่อสาธารณะบน Twitter เมื่อใดก็ตามที่มีอะไรผิดพลาด คอมมูนิตี้ก็จะมองไปทาง Javi” Santiago กล่าว “แล้วในที่สุด มันก็กลายเป็นหนึ่งในมีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในคอมมูนิตี้ - #CulpaDeMaggical มันหมายความว่า: 'มันเป็นความผิดของ Maggical’” 

ยิงสกิลไม่โดนเหรอ? #CulpaDeMaggical ทีม LLA ที่คุณชื่นชอบแพ้? #CulpaDeMaggical LLA ขายตั๋วหมดแล้ว? #CulpaDeMaggical 

เมื่อ Javi จากไปแล้ว #CulpaDeMaggical จึงกลายมาเป็นวิธีในการรำลึกถึงผลกระทบของเขาและให้เกียรติในเจตจำนงของเขา ไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เขาจากไป ทีมอีสปอร์ตทั่วละตินอเมริกาได้โพสต์ข้อความเดียวกัน: 

เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความหมายที่เขามีต่อคอมมูนิตี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องรับรู้ไว้ แต่การจะมีระดับความสัมพันธ์กับคอมมูนิตี้ได้ขนาด Javi นี่มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ต้องใช้การอุทิศให้กับผู้เล่น ความหลงใหลในเกม และความรักอย่างแท้จริงต่อผู้ที่เล่นเกมของ Riot ทุกวัน 

“การพูดคุยกับชุมชนไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป” Rafael Ojeda ผู้จัดการประจำภูมิภาคละตินอเมริกาที่ทำงานกับ Javi มาหลายปีกล่าว “เขาอยู่ที่นั่นเพื่อเป็นมีม แต่ก็สำหรับการพูดคุยเรื่องยาก ๆ ด้วย เขาเป็นหน้าตาของ Riot สำหรับภูมิภาคนี้ ในตอนที่เขาเริ่มต้น เขามักจะได้รับความเกลียดชังจากคอมมูนิตี้ พวกเขาพูดประมาณว่า ‘อ้อ คุณเองเหรอที่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องแย่ ๆ?’ แต่เมื่อเวลาผ่านไป และการตอบสนองจำนวนมาก คอมมูนิตี้เริ่มเข้าใจบทบาทของเขามากขึ้น แล้วก็กลับหน้ากลับหลังกลายเป็นคอมมูนิตี้หันมารักเขาแทน ดังนั้นเมื่อเขาได้รับความคิดเห็นที่แสดงความเกลียดชัง คอมมูนิตี้ก็จะก้าวขึ้นมาและลงโทษผู้ที่ส่งมันเข้ามา”

และในที่สุด คอมมูนิตี้ก็เข้ามาช่วยเขาตอบคำถามมากขึ้น

“เขามีคำถามมากมายที่เข้ามาหา คอมมูนิตี้ที่นี่ได้สร้างบอทบน Twitter ขึ้นมา” Rafael กล่าว “เมื่อมีคนถามว่า 'ทำไมคุณถึงทำให้แชมเปี้ยนตัวนี้ไม่สมดุล?' หรือ ‘ทำไมบัญชีของฉันถึงใช้งานไม่ได้?’ เขาจะพูดว่า 'ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้รับผิดชอบเรื่องนั้น' และเขาพูดแบบนั้นหลายครั้งจนคอมมูนิตี้สร้างบอทเพื่อชี้นำผู้คนไปยังตั๋วขอความช่วยเหลือซึ่งจะตอบคำถามแทนเขาให้ ฉันคิดว่าเขาภูมิใจกับบอทตัวนั้น มันเป็น เครื่องพิสูจน์ว่าเขามีความสำคัญเพียงใด คอมมูนิตี้มองเห็นเขาได้ชัดขนาดไหน และความทะนุถนอมของเขา ตอนที่เขาจากไป คอมมูนิตี้ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก”

เมื่อเวลาผ่านไป บอทเองก็กลายเป็นมีมเช่นกัน ผู้คนจะแท็กมันเมื่อมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นในเกม หลังจากที่เขาจากไป บอทก็ถูกปิดใช้งาน แต่ทวีตอีกนับพันรายการยังคงอยู่ 

riot-games-javier-espana-at-arcane-undercity-nights

 

จากอาร์เจนตินาสู่ชิลีสู่เม็กซิโกซิตี การเดินทางของ Javi ได้พาเขาไปทั่ว LATAM

Javi ซึ่งเกิดในอาร์เจนตินา เริ่มทำงานที่ Riot ในปี 2015 โดยทำงานที่สำนักงานของเราในซานติอาโก ประเทศชิลี ซึ่งเป็นที่ตั้งของทีม LATAM ใต้ เมื่อทีมเติบโตขึ้น Riot ได้ย้ายไปอยู่ที่สำนักงานแห่งหนึ่งในเม็กซิโกซิตี ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งใหม่ของทีม LATAM ทั้งหมด

“เขาเป็นมือขวาของฉันในทีมการตลาดในเม็กซิโกซิตี” Santiago กล่าว “ฉันเข้าร่วม Riot ในปี 2018 และเขาไม่ได้อยู่ในทีมของฉัน เขากำลังทำเรื่องอีสปอร์ตอยู่ในตอนนั้น แต่หลังจากนั้นสองสามสัปดาห์ เราก็ย้ายเขาออกจากงานอีสปอร์ตเพื่อมาดูแลคอนเทนต์ในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา ทั้งเกมและอีสปอร์ต และในขณะที่ฉันยังใหม่อยู่ เขาช่วยให้ฉันได้ทันต่อด้านต่าง ๆ ของอีสปอร์ตและเกมที่เขาเชี่ยวชาญอยู่แล้ว” 

ตอนเริ่มต้นที่ Riot เขาทำงานในฝ่ายการผลิตอีสปอร์ต ความหลงใหลและแรงผลักดันของเขาทำให้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งเขากลายเป็นผู้จัดการด้านกลยุทธ์ประจำช่องในปี 2022 แต่ผลกระทบของ Javi ไม่สามารถสรุปได้ด้วยชื่อตำแหน่งเพียงอย่างเดียว 

“Javi คือพนักงาน Riot ที่เต็มใจมากที่สุดที่ฉันรู้จัก เขามักจะกระโดดเข้าไปหาระเบิดเสมอ ถ้ามีคนใครสักคนต้องทำมัน” Rafael กล่าว “ถ้ามีปัญหา เขาก็จะพูดว่า 'ฉันแก้ปัญหานั่นได้' ถ้าคุณถามทีมว่าใครที่ให้ความช่วยเหลือมากที่สุด ฉันแน่ใจว่าพวกเขาทั้งหมดต้องบอกว่า Javi เขาอยู่ทุกหนทุกแห่งตั้งแต่ฝ่ายช่วยเหลือผู้เล่นไปจนถึงฝ่ายเผยแพร่แบรนด์ไปจนถึงฝ่ายอีสปอร์ต” 

ทีมงานในเม็กซิโกซิตีและ Riot โดยทั่วไป จะยังคงรู้สึกได้ถึงผลกระทบของเขาต่อสิ่งที่พวกเขาทำงานด้วยทุกวัน 

“สิ่งแรกที่เขาพูดเมื่อเข้าร่วมทีมของฉันคือ 'ฉันขอเปลี่ยนวิธีการดำเนินคอนเทนต์ของพวกเราได้ไหม?'” Santiago จำได้ “หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป เขามอบสเปรดชีตที่ซับซ้อนนี้ให้ฉันซึ่งมีทุกอย่างเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และแนะนำมันให้กับฉัน เมื่อเรานำไปใช้จริง มันพลิกโฉมไปเลยล่ะ ปัจจุบันเราเผยแพร่คอนเทนต์มากกว่า 300 ชิ้นต่อสัปดาห์ ไม่มีทางเป็นไปได้หากไม่มี Javi เรายังคงทำสิ่งเดียวกันกับที่เขาวางไว้ในปี 2019” 

นั่นแหละคือ Javi ล่ะ เขายินดีให้ความช่วยเหลือเสมอ เต็มใจแบ่งปันความรู้ และมองหาวิธีปรับปรุงประสบการณ์ของผู้เล่นอยู่เสมอ ถ้าเขาพบวิธีการ เขาจะทำให้มันเกิดขึ้นจริง ความหลงใหลและแรงผลักดันของเขาเป็นตำนานในหลาย ๆ ด้านของบริษัท แต่ไม่มีที่ไหนที่จะจัดแสดงได้มากไปกว่าอีสปอร์ต 

“Javi แสดงให้ฉันเห็นว่าความหลงใหลในอีสปอร์ตมันเป็นยังไง” Eduardo Cazares หัวหน้าผลิตภัณฑ์อีสปอร์ตของ Riot LATAM กล่าว “ฉันภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับเขา และบางครั้งฉันก็สงสัยว่าเขาจะแนะนำฉันในการตัดสินใจได้อย่างไร ฉันรู้ว่าเขาจะนำฉันไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องในการสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้เล่น” 

 
riot-games-javier-espana-eduardo-cazares-at-arcane-undercity-nights

 

เม็กซิโกซิตีเป็นเจ้าภาพ World

Javi เป็นผู้ช่วยชีวิตคนที่เล่นอีสปอร์ตเป็นอาชีพด้วยตัวเขาเอง และสร้างทีมอีสปอร์ตของตัวเองที่ชื่อ Coliseum Dragons ขึ้นมาก่อนที่เขาจะเข้าร่วมกับ Riot 

“ฉันไม่คิดว่าใครจากสำนักงานนี้จะเนื้อเต้นเท่ากับเขาอีกแล้วสำหรับ Worlds ที่จะมาที่เม็กซิโก” Santiago กล่าว “เขาชอบเวลาที่เขาได้สัมผัสสิ่งต่าง ๆ ด้วยกันกับผู้เล่น ดังนั้นฉันคิดว่าเขาคงเอาตัวเองไปอยู่ในปาร์ตี้รับชมด้วยแน่เลย เขาอาจจะออกแบบแล้วก็จัดมันขึ้นมาเองด้วยซ้ำ และนั่นจะเป็นสิ่งที่ผู้เล่นจะต้องตื่นเต้น และเขาเองจะรู้สึกตื่นเต้นที่ได้พบกับคอมมูนิตี้รอบโลก”

ในขณะที่เม็กซิโกซิตีเตรียมเป็นเจ้าภาพ Worlds Javi ก็ได้เป็นส่วนสำคัญตลอดกระบวนการทั้งหมด แต่เขาจะไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อดูตอนมันเป็นจริงขึ้นมา 

“ก่อนที่เขาจะจากไป เราได้บอกว่าเขาจะเป็นผู้นำในการส่งมอบ Worlds” Santiago กล่าว “และนั่นก็หมายความว่าเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการทุกอย่าง และฉันมั่นใจด้วย ว่าถ้าเขายังอยู่กับเรา สิ่งที่เราทำบางอย่างก็อาจจะแตกต่างออกไป แต่ฉันรู้แค่ว่าเขาคงจะชอบมัน” 

“ฉันคิดว่าเขาจะประหลาดใจที่ได้เห็นมัน และฉันก็คิดว่าเขาจะพูดว่า 'ฉันคิว่าตรงนี้ทำงี้ได้ ตรงนั้นก็แบบนั้นได้'” Rafael กล่าว “เขาจะชี้ให้เราเห็น แล้วจากนั้นก็จะแก้ไขทันที ฉันชอบด้านนั้นของเขา”

แม้ว่า Javi จะจากไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ถูกลืมไปง่าย ๆ ในการแสดงเกมก่อน Worlds #CulpaDeMaggical ได้ปรากฏตัวอีกครั้ง 

เมื่อละตินอเมริกาเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน Worlds เป็นครั้งแรก เม็กซิโกซิตีก็แสดงตัวออกมา ความหลงใหลนั้นชัดเจนและเสียงเชียร์ยังคงดังอยู่หลายต่อหลายชั่วโมงตลอดการแข่งขัน 

“ผมรู้ว่าเขาจะภูมิใจกับแฟน ๆ ความหลงใหล และความอดทนของพวกเขาแน่เลย” Rafael กล่าว “Javi ต้องอยากจะเห็นมันแน่ และฉันก็รู้นะ ว่าเขาคงจะภูมิใจที่มีแฟนชาวเม็กซิกันหยั่งรากลึกในทีมอาร์เจนติน่า เขาคงจะภูมิใจที่ได้เห็น LATAM รวมตัวกันเป็นทีมจาก LLA” 

Isurus Gaming องค์กรจากอาร์เจนตินาที่มีผู้เล่นชาวเม็กซิกันสามคนและผู้เล่นชาวเกาหลีสองคน เป็นทีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเม็กซิโกซิตี แต่ไม่ว่าใครเล่น กองเชียร์ก็พร้อมเชียร์ตั้งแต่นัดแรก 

“แฟน ๆ LLA หลงใหลในภูมิภาคของพวกเขามาก แต่พวกเขายังติดตามทีมจากทั่วโลกด้วย” Eduardo กล่าว “มันคล้ายกันกับวงการฟุตบอล คุณมีทีมท้องถิ่นที่คุณชื่นชอบ แต่ในฐานะแฟนของอีสปอร์ต คุณอาจมีทีม LCK และทีม LEC ด้วย ดังนั้นเราจึงต้องการให้ทีมและลีกอื่น ๆ ทราบ พวกคุณอาจพบกับฐานแฟนคลับที่มีอยู่แล้วใน LATAM ก็ได้” 

แต่ยิ่งกว่าทีมหรือจังหวะไหน ๆ ที่นอกเหนือจาก Isurus นั่นคือจุดสนใจจากแฟน ๆ จะอยู่ที่เกมล้วนๆ พวกเขาจะเชียร์เป็นเสียงเดียวกันเมื่อมีการชนะทีมไฟต์ และอีกหนึ่งเสียงเชียร์สำหรับการขโมยบารอนสำเร็จ จุดประสงค์หลักก็คือดูการเล่นในลีกระดับสูงสุด 

“ไม่สำคัญว่าทีมจะมาจากไหน” Miguel Oyamburu ผู้อำนวยการสร้างอีเวนต์ของ Riot LATAM กล่าว “เราได้เห็นการแข่งขันที่ดีและมีน้ำใจนักกีฬาที่งดงาม นั่นคือสิ่งที่เราจะฉลอง และเราจะใส่ความหลงไหลลงไปพร้อมกับเปล่งเสียงกันอย่างเต็มที่ นั่นเป็นของตายอยู่แล้ว” 

Javi เป็นคนที่ผู้เล่นทุกคนมองว่าเป็นหน้าตาของ Riot แต่สำหรับวงการอีสปอร์ตใน LATAM เขาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนที่ร้อนแรงที่สุดของพวกเขา ตั้งแต่เมื่อเขาเริ่มต้นที่ Riot Javi ได้ช่วยสร้างแพลตฟอร์มและการออกอากาศที่ผู้เล่นที่ดีที่สุดในภูมิภาคสามารถแสดงทักษะของพวกเขาได้ 

หลังจากที่เขาจากไป คอมมูนิตี้อีสปอร์ตก็มารวมตัวกันเพื่อไว้อาลัย ใน LLA ทีมต่าง ๆ แปะชื่อของเขาไว้บนเสื้อ และการออกอากาศอย่างเป็นทางการก็เงียบไปชั่วครู่ก่อนเริ่มการแข่งขัน ผลกระทบของ Javi เหนือยิ่งกว่า League สำหรับผู้เล่นทุกคนในละตินอเมริกา ก่อนการแข่งขัน VALORANT สองทีมวางปืนของพวกเขาลงเพื่อเป็นการไว้อาลัย Javi 

 

 

ผลกระทบของ Javi สามารถรับรู้ได้โดยพนักงาน Riot ทั่วโลก

ผลกระทบของ Javi สามารถรับรู้ได้โดยพนักงาน Riot ทั่วโลก ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนที่เขาจะจากไป เขาเดินทางไปลอสแอนเจลิสเพื่อนำเสนอที่การประชุมสุดยอดที่สำนักงานใหญ่ของเรา 

“เขาขึ้นไปที่การประชุมสุดยอดเพื่อแสดงให้เห็นว่าละตินอเมริกาโปรโมตคอนเทนต์อย่างไร” Rafael กล่าว “สิ่งที่เขานำเสนอบางส่วนถูกนำมาใช้โดยทีม Riot อื่น ๆ ทั่วโลก Javi เป็นผู้ชอบความท้าทาย เขาพร้อมเสมอที่จะให้ความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสิ่งที่เขาคิด ฉันชอบด้านนั้นของเขา การที่เขามีความท้าทายอยู่เสมอนั้นยอดเยี่ยมเพราะเขามักจะให้ความสำคัญกับ 'สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้เล่น' อยู่เสมอ”

ความคิดนั้นคือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นผู้ประสานงานที่ยอดเยี่ยมกับคอมมูนิตี้ ส่วนในฐานะผู้เล่นเอง เขาจดจ่ออยู่กับประสบการณ์ของผู้คนในเกมของ Riot อย่างแท้จริง 

“Javi เป็นคนที่ใช้ประสบการณ์ของผู้เล่นอย่างต่อเนื่อง” Ben “Draggles” Forbes หัวหน้าคอมมูนิตี้ที่กำลังทำงานใน Project L กล่าว “เขามาที่การสนทนาทุกครั้งด้วยความอบอุ่น ความเห็นอกเห็นใจที่แท้จริงและวุฒิภาวะ และเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับฉันเกี่ยวกับวิธีเดินตามการสนทนาเหล่านั้นในช่วงต้นอาชีพของฉัน เขาเข้าใจความสมดุลระหว่างทีมระดับภูมิภาคและระดับโลก และเขาให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาอยู่เสมอ ตอนที่ Javi อยู่ในห้อง เขามักจะจดจ่ออยู่กับการทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้เล่นและเพื่อ Riot” 

เมื่อ Ben ทำงานใน Wild Rift สมาชิกคอมมูนิตี้บางคนจากละตินอเมริกาเห็นว่า #CulpaDeMaggical กลายเป็น #CulpaDeDraggles เป็น meme ของ Javi ที่ข้ามผ่านคอมมูนิตี้และภาษาต่าง ๆ 

Javi ยังเป็นส่วนสำคัญของ Riot Unidos ซึ่งเป็นกลุ่มทรัพยากรพนักงานของกลุ่มพนักงาน Riot ในละตินอเมริกาที่ทำงานทั่วโลก ในปี 2021 สำหรับเดือนมรดกแห่งละตินอเมริกา Javi ได้เข้าร่วมกับสมาชิกคนอื่น ๆ ของ Riot Unidos เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการปลูกฝังคอมมูนิตี้ทั่วละตินอเมริกา 

 

 

“ฉันได้พบกับ Javier เมื่อฉันเคยช่วยงานอีสปอร์ตใน LATAM แต่ต้องใช้เวลากับเขามากขึ้นในระหว่างการประชุมในอีสปอร์ตละตินของเรา” Carlos Hernandez สมาชิกคนหนึ่งของ Riot Unidos ที่ทำงานในสำนักงาน LA ของเรากล่าว “สิ่งหนึ่งที่เป็นความจริงเสมอมาเกี่ยวกับ Javier คือเขาใช้ชีวิตโดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้เล่นเป็นอันดับแรก ไม่ว่าการตัดสินใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงใด เขาจะพิจารณาว่ามันจะส่งผลต่อผู้เล่นอย่างไร ในทางกลับกัน คุณจะเห็นความรักและการสนับสนุนจากผู้เล่นบนโซเชียลมีเดียซึ่งสะท้อนว่าพวกเขารู้สึกว่าได้รับการตอบรับ การมีคนอย่าง Javier ที่ Riot นั้นพิเศษจริง ๆ เพราะเมื่อเราเติบโตขึ้น เขาไม่เคยละสายตาจากผู้เล่นที่ทำให้ Riot เป็นอย่างที่มันเป็นอยู่” 

Riot ในฐานะบริษัทจะดีกว่านี้ถ้าให้ Javi ทำงานที่นี่ แต่ผลกระทบของเขามีต่อผู้คนอย่างแท้จริง มีผู้คนมากมายที่จะทำงานให้กับ Riot นานนับทศวรรษ และผู้คนที่แค่ผ่านเข้ามาเท่านั้น มีผู้เล่นที่นานทีปีหนจะเล่นสักครั้งนึงและผู้เล่นที่เข้าคิวทุกวัน แต่ทุกคน หากพวกเขาโชคดีพอที่จะโต้ตอบกับ Javi ก็จะได้รับผลกระทบในทางบวกจากงานที่เขาทำและตัวตนที่เขาเป็น 

Javi จะมีชีวิตอยู่ต่อไปผ่านครอบครัวของเขา ผ่านงานของเขา และผ่านหัวใจของทุกคนที่ติดต่อกับเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ภายในสำนักงานในเม็กซิโกซิตี มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็น Culpa de Maggical และพวกเขาไม่ต้องการให้มันเป็นอย่างอื่น